ประวัติแพทย์อู๋ชิงข่าย

ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง

รองผู้อำนวยการแพทย์ ที่ปรึกษาหลักของสำนักงานพนมเปญประเทศกัมพูชา

ทหารกู้ชีพ

คุณหมออู๋ชิงข่ายเป็นคนเหอหนาน ปีค.ศ. 1982 หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เหอหนานของประเทศจีน คุณหมออู๋ก็ได้เริ่มอาชีพเป็นหมอรักษามะเร็ง ย้อนกลับไปนึกถึงช่วงเวลาที่คุณหมออู๋หวังจะเป็นคนเสื้อขาวที่ช่วยเหลือผู้คนให้หายจากการบาดเจ็บจึงกลายมาเป็นแพทย์รักษาและช่วยชีวิตผู้ป่วย เวลาผ่านไปชั่วพริบตาเดียว คุณหมออู๋เป็นหมอมา 30 ปีแล้ว 30ปีผ่านมาได้พบความยากลำบากมากมาย แต่เพื่อรักษาโรคและช่วยชีวิตให้ผู้ป่วยมีความสุขและบรรเทาจากความเจ็บปวด คุณหมออู๋จึงค่อยๆ ผ่านอุปสรรคไปทีละขั้น และเพื่อศึกษาความรู้ทางด้านแพทยศาสตร์ให้มากขึ้น เวลาว่างคุณหมออู๋จะอ่านหนังสือมากมายที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และหาข้อมูลการแพทย์ใหม่ๆ ทางอินเตอร์เน็ต และด้วยมีอุดมการณ์ที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยให้มากขึ้นเรื่อยๆ คุณหมออู๋จึงไปต่างประเทศเพื่อวางรากฐานให้กับผู้ป่วย

แม้อยู่ต่างถิ่นแต่ก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้

เนื่องจากการพัฒนาของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว คุณหมออู๋จึงรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลักที่เมืองพนมเปญของประเทศกัมพูชา การโยกย้ายตำแหน่งครั้งนี้ คุณหมออู๋ก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่ท่านลังเลอยู่ไม่นานก็ตัดสินใจไปพนมเปญการแพทย์ไม่มีพรมแดน พอคิดว่าได้มีโอกาสไปต่างประเทศช่วยชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งได้มากขึ้น คุณหมออู๋ก็ภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติกับงานนี้มาก และคิดว่าโอกาสครั้งนี้เป็นโอกาสที่ทำให้ความฝันของท่านเป็นจริงได้ เป็นหมอมาหลายปี เวลาที่รอคอยมาตลอดคือเวลานี้

เมื่อไปถึงพนมเปญประเทศกัมพูชาคุณหมออู๋ก็ได้พบความลำบากมากมาย ความลำบากในการใช้ชีวิต ประเพณีที่ต่างกัน ภาษาไม่เหมือนกันทำให้คุณหมออู๋รู้สึกท้อใจเล็กน้อย แต่ด้วยความยืนหยัดของคุณหมอ จึงค่อยๆ ชินกับการใช้ชีวิตที่พนมเปญและเริ่มตกหลุมรักพื้นที่ที่เรียบง่ายนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ท่านยังจำได้ว่าผู้ป่วยคนแรกที่มาสอบถามที่สำนักงานเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เนื่องด้วยเธอไม่มีความรู้เกี่ยวกับมะเร็งอย่างพอเพียง ก็เลยไม่ได้รักษามะเร็งอย่างทันเวลา ทำให้โรคร้ายแรงขึ้น กระทบถึงชีวิตความเป็นอยู่ ตอนที่เธอมาหาคุณหมออู๋ มะเร็งได้กระจายไปหลายที่แล้ว เมื่อมองหน้าผู้ป่วยคนนี้ คุณหมออู๋รู้สึกปวดใจมาก เพราะความรู้เกี่ยวกับมะเร็งมีน้อย ถึงทำให้ผู้ป่วยคนนี้ไม่ได้รักษาโรคได้ทันเวลา จากเรื่องนี้คุณหมออู๋เข้าใจมากขึ้นว่างานของตัวเองมีความหมายและความสำคัญมากนัก การให้ผู้คนเข้าใจในความรู้เรื่องมะเร็งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

เนื่องจากความจำเป็นด้านการทำงาน เดือนมีนาคม ปี 2013 คุณหมออู๋ได้จากสำนักงานพนมเปญ ประเทศกัมพูชา และเข้ามาที่สำนักงานประเทศไทยเพื่อดำเนินงานให้คำปรึกษากับผู้ป่วยต่างประเทศ

ในช่วงที่ให้คำปรึกษาคุณหมอเคยเจอผู้ป่วยหรือญาติแสดงอารมณ์ที่รุนแรงหรือชอบคิดเชิงลบ แต่คุณหมออู๋ไม่ได้รำคาญเลยสักนิด ตรงกันข้าม ท่านคิดในมุมมองของผู้ป่วย ใส่ใจผู้ป่วย เข้าใจผู้ป่วย ตอบคำถามผู้ป่วยอย่างมีความอดทน อธิบายความจริงให้ผู้ป่วยทราบและบอกผลการรักษา ให้กำลังใจผู้ป่วยในการให้ความร่วมมือกับการรักษา ช่วยผู้ป่วยขจัดความสงสัยในโรค สร้างความมั่นใจในการเอาชนะมะเร็ง

เผชิญกับโรคอย่างกล้าหาญและคิดเชิงบวกเสมอ

ในฐานะที่เป็นหมอคนหนึ่ง คุณหมออู๋รู้สึกว่าควรมีความรู้ทั้งทางด้านแพทยศาสตร์ ความรู้ด้านเฉพาะทาง ความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา และความรู้ด้านสังคมศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังต้องมีความอดทน มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจความเปลี่ยนแปลงของอาการและความคิดของผู้ป่วยตลอดเวลา ทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้เป็นคุณสมบัติที่คุณหมอต้องมี

คุณหมอมีประสบการณ์ทางด้านการแพทย์มา 30 กว่าปี มีทักษะวินิจฉัยและรักษามะเร็งชนิดต่างๆ โดยเฉพาะในการรักษาแบบบูรณาการของผู้ป่วยมะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งมดลูกระยะกลางกับระยะสุดท้าย มีผลการรักษาที่ดีเยี่ยมอีกทั้งสำหรับการรักษามะเร็งแล้วคุณหมอก็มีความคิดเป็นของตัวเองด้วย ก่อนหน้าที่คุณหมอจะเรียนด้านแพทย์ พอได้ยินคำว่ามะเร็ง คุณหมออู๋ก็รู้สึกกลัว ในสมัยทศวรรษ 70-80 คำว่ามะเร็งเป็นคำที่แทนความตาย สมัยนั้นมีวิธีการรักษาไม่มาก มีแค่ผ่าตัด เคมีบำบัดแบบง่ายๆ การฉายแสง เป็นต้น มีผู้ป่วยมากมายพอรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งก็อยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว วิธีโดยทั่วไปนั้นไม่สามารถรักษาได้ ทำได้เพียงบรรเทาอาการ ซึ่งผลที่ออกมาก็ไม่ดี ส่งผลถึงชีวิตได้ แต่เนื่องด้วยเทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว มะเร็งบางชนิดจึงไม่ใช่มะเร็งที่ไม่มีทางรักษาให้หายอีกต่อไป หากได้รับการรักษาในระยะแรกก็จะได้ผลดีมาก คุณหมออู๋บอกว่า ในการดำรงชีวิต ต้องดำเนินด้วยวิถีที่รักษาสุขภาพ เพราะสามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งให้อยู่ในเกณฑ์ต่ำที่สุด สำหรับการรักษาโรคมะเร็ง ความคิดของคุณหมออู๋คือ มะเร็งสามารถป้องกันได้ สำหรับผู้ป่วยระยะสุดท้ายต้องรักษาอย่างกระตือรือร้น มีความกล้าหาญในการเผชิญโรค พยายามพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น


มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งเต้านม
มะเร็งปอด
มะเร็งตับ
มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งกระเพาะอาหาร
มะเร็งกระดูก
มะเร็งผิวหนัง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งตับอ่อน
มะเร็งหลอดอาหาร
มะเร็งสมอง
มะเร็งช่องปาก
มะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
มะเร็งคอ
มะเร็งถุงน้ำดี
มะเร็งช่องคลอด
มะเร็งองคชาติ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งโพรงจมูก
มะเร็งลำไส้เล็ก
มะเร็งไต
มะเร็งทวารหนัก
มะเร็งอัณฑะ
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด Multiple myeloma
มะเร็งต่อมหมวกไต
มะเร็งกระดูกสันหลัง
มะเร็งลำไส้
มะเร็งตา
โรคมะเร็งเนื้อเยื่ออ่อน
มะเร็งลิ้น
มะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งรังไข่
มะเร็งต่อมไทรอยด์
อาการโรคมะเร็ง การวินิจฉัยโรคมะเร็ง การรักษาโรคมะเร็ง
ผู้สื่อข่าวสำนักพิมพ์ไทยรัฐประเทศไทย เดินทางไปสัมภาษณ์โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวถึงเมืองกวางเจา และเห
โครงการ 2,000,000 บาท ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งของมูลนิธิบ่ออ้าย (ประเทศไทย)
งานมอบรางวัล “ผู้กล้าสู้มะเร็งประจำเดือนมีนาคม”
ผู้บริหารของโรงพยาบาลเราได้พบคุณห่าวซีซานสมาชิกสถาบันด้านวิศวกรรมแห่งประเทศจีน เพื่อเสาะหาความร่วมมือและการพัฒนา
กลุ่ม MDT ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีสุขภาพที่แข็งแรงและกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
นำโรงพยาบาลเข้าสู่มาตรฐาน JCI ยกระดับให้โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
สุขไปกับชีวิตสายการแพทย์ เติมเต็มคุณค่าของชีวิต
การฝังแร่ไอโอดีน เสียงสวรรค์ของผู้ป่วยมะเร็ง --การประชุมใหญ่ด้านเทคโนโลยีการรักษามะเร็งด้วยการฝังแร่ไอโอดีนครั้งที่ 13 ณ ประเทศจีน