นายแพทย์ไล่เพ่ยเซิงประจำวอร์ดผู้ป่วยชั้น 5 โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว
พยายามอย่างต่อเนื่อง เพียงเพื่อรอยยิ้ม
ท่านเป็นชาวผู่หนิง มณฑลกวางตุ้ง อายุ 33 ปี ตั้งแต่ปี 2004 หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์คุนหมิงท่านก็เริ่มทำงานด้านมะเร็งมาโดยตลอด จนถึงตอนนี้เป็นเวลา 8 ปีมาแล้ว คุณหมอไล่นึกย้อนไปตอนแรกที่เข้ามาเพียงเพราะความใหม่ของแผนกนี้จึงเข้ามาเป็นหมอรักษามะเร็ง แต่ในการทำงาน ท่านได้เห็นความทรมานของผู้ป่วยโรคมะเร็ง เห็นความผิดหวังของครอบครัวผู้ป่วย ทำให้ความคิดของคุณหมอเปลี่ยนไป คุณหมอไล่มีความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะช่วยเหลือผู้ป่วย อยากให้ครอบครัวผู้ป่วยกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง แต่เนื่องด้วยความสามารถตนเองไม่พอ ดังนั้นเวลาว่างจากการทำงานท่านจึงอ่านหนังสือเกี่ยวกับมะเร็งอยู่เสมอ ร่วมถกเถียงถึงอาการผู้ป่วยกับผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ และร่วมงานการแลกเปลี่ยนความรู้และการวิจัยเกี่ยวกับมะเร็งระดับนานาชาติเพื่อพัฒนาความสามารถของตนเอง ท่านคิดว่าขอเพียงสามารถรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้มากขึ้น เพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขาแค่นี้ท่านก็พอใจแล้ว
สั่งสมประสบการณ์ ข้ามผ่านอุปสรรค
ช่วงเวลา 8 ปีที่ทำงานด้านการรักษามะเร็ง คุณหมอไล่ได้สะสมประสบการณ์เพื่อนำไปใช้การรักษาโรคมะเร็ง เมื่อพูดถึงการรักษาโรคมะเร็งคุณหมอไล่กล่าวว่า ถ้าพบมะเร็งในระยะแรกจะทำให้การรักษาได้ผลดีที่สุด ในส่วนของมะเร็งระยะกลางถึงระยะสุดท้ายจะสามารถช่วยผู้ป่วยได้เพียงบรรเทาความทุกข์ทรมาน ยืดชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้ แต่เนื่องด้วยการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการรักษาแบบบาดแผลเล็ก เทคโนโลยีการใช้ยีนบำบัด เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคมะเร็งได้ดีมากยิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยแล้ว ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นด้วย นี่คือสิ่งที่คุณหมอไล่ยินดี รวมไปถึงผู้ป่วยเองก็ต้องการด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้คุณหมอไล่จึงเรียนรู้และวิจัยเทคนิคการรักษาแบบบาดแผลเล็กอยู่เสมอ ความพยายามเหล่านี้ก็เพื่อได้เข้าไปทำงานในศูนย์มะเร็งนานาชาติของโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวเพื่อวางรากฐานให้กับผู้ป่วย นอกจากนี้ท่านยังมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับโรคมะเร็งและโรคที่รักษาไม่หาย ท่านชอบหยิบยกมุมมองของตัวเอง และความคิดเห็นของท่านก็จะได้รับความเห็นชอบจากทุกคน
คุณหมอไล่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรักษามะเร็งระยะกลางถึงระยะสุดท้ายชนิดต่างๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งศีรษะและลำคอรวมไปถึงเนื้องอกอื่นๆ
ในบรรดาการรักษาแบบบาดแผลเล็ก การรักษาด้วยความเย็น การใช้ยีนบำบัด การฝังแร่ เป็นเทคโนโลยีที่คุณหมอไล่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เทคนิคการรักษาแบบบาดแผลเล็กนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่อยากใช้วิธีการผ่าตัด และเป็นตัวเลือกให้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะกลางและระยะสุดท้ายที่สูญเสียโอกาสในการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้จะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ในระหว่างการรักษาก็ใช้วิธีการอื่นๆ ร่วมด้วย เป็นการบูรณาการการรักษาเฉพาะจุดกับการรักษาทั้งร่างกายเข้าด้วยกัน ซึ่งใช้วิธีนี้รักษาผู้ป่วยมาแล้วมากมาย และแน่นอนว่าในกระบวนการของการรักษาโรคมะเร็งนั้น คุณหมอไล่เคยพบกับความยากลำบากมามากมาย และเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เขาต้องอดหลับอดนอนมาหลายต่อหลายครั้ง ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อศึกษาประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วย ปรึกษาขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง และนำมาผสมผสานกับประสบการณ์ความรู้ส่วนตัว ทำให้คุณหมอข้ามผ่านอุปสรรคนานามาได้
ดูแลผู้ป่วยทุกคนด้วยความตั้งใจ
ในฐานะแพทย์ไม่เพียงแต่ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยเท่านั้น แต่ควรดูแลจิตใจของผู้ป่วยด้วย การดูแลทางจิตใจเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง การมาโรงพยาบาลในครั้งแรก ผู้ป่วยบางท่านมักจะหวาดระแวงและมีความสงสัยต่อแพทย์ที่ทำการรักษาเขา แต่ด้วยการดูแลเอาใจใส่ของคุณหมอไล่ เขาจึงค่อยๆ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ป่วย เช่น จงหลานหัวเป็นผู้ป่วยมะเร็งรังไข่จากจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2011 จงหลานหัวรู้สึกปวดและแน่นท้อง โดยเฉพาะบริเวณท้องส่วนล่างนั้นปวดเป็นอย่างมาก หายใจลำบาก เมื่อมาตรวจที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ผลวินิจฉัยออกมาว่าเป็นมะเร็งรังไข่ คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัด แต่เธอปฏิเสธ ต่อมาจงหลานหัว ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่ามีโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวที่ประเทศจีนมีการรักษามะเร็ง จึงเดินทางมารักษาที่นี่ เธออธิบายว่า “ฉันเหมือนคนที่ตั้งครรภ์มามากกว่าสิบเดือน ท้องใหญ่เหมือนเธอมีลูดแฝดอยู่ในท้อง เธอไม่สามารถนอนหงายอยู่บนเตียงได้เพราะจะทำให้เจ็บปวด เธอทำได้แค่นั่งเท่านั้น” เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่แปลกไป ผู้คนที่ต่างออกไปรวมไปถึงภาษาที่ไม่คุ้นเคยทำให้เธอไม่ไว้วางใจในคุณหมอไล่ ตอนนั้นคุณหมอได้สอบถามเกี่ยวกับอาการและประวัติการรักษาของเธอในช่วงที่อยู่ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นก็ให้เธอตรวจร่างกาย และนำผลตรวจมาปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาล เพื่อวิเคราะห์อาการและกำหนดแผนการรักษาตามอาการของเธอ
ใช้ความจริงใจชนะใจของผู้ป่วย
คุณหมอไล่เข้าไปตรวจและสอบถามอาการของจงหลานหัวทุกวัน ช่วยวิเคราะห์ถึงโรคและอาการของเธอ เพื่อสามารถอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการรักษาให้เธอเข้าใจ อธิบายสาเหตุที่ใช้วิธีการนี้และผลของการรักษา ตอบคำถามของเธออย่างอดทน จึงทำให้จงหลานหัววางใจให้คุณหมอไล่รักษาและเชื่อมั่นในตัวแพทย์มากขึ้นเรื่อยๆ คุณหมอไล่และผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลได้ใช้วิธีการคีโมเฉพาะจุด การรักษาแบบใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด และสมุนไพรจีน เป็นต้น ซึ่งเป็นการรักษาแบบบูณาการ หลังจากเข้ารับการรักษาแล้วจงหลานหัวมีอาการดีขึ้น ทำให้สามารถกลับมาเดิน นอนหลับ และทานอาหารได้อย่างปกติ ร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา ในระหว่างนั้นคุณหมอไล่ใส่ใจต่อสภาพร่างกาย อาหารการกิน การหลับนอน และสภาพจิตใจของเธอเสมอ คุณหมอไล่แนะนำให้เธอนอนหลับ ทำจิตใจให้สบาย บอกกับเธอว่ามะเร็งไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด การกระทำเหล่านี้แม้จะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่นั่นก็ทำให้จงหลานหัวรู้สึกดีและประทับใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วจงหลานหัวและผู้ป่วยมะเร็งปอดอีกท่านหนึ่งร่วมกันปักผ้าเพื่อตอบแทนน้ำใจที่คุณหมอไล่และผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ มีให้
ความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ค่อยๆ เอาชนะใจผู้ป่วย และจงหลานหัวก็เป็นผู้ป่วยหนึ่งในนั้น