ในการประชุม ASCO ประจำปี2013 ศูนย์มะเร็งกษัตริย์ฮุสเซน มอบเอกสารรับรองรายงานอีกครั้งว่าเทคโนโลยี PET-CT สแกนเป็นเครื่องมือที่มีเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็ง นอกจากจะใช้วินิจฉัยมะเร็งในระยะแรกแล้ว PET-CTสแกนยังช่วยประเมินการตอบสนองและประสิทธิผลหลังการรักษาของผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อกำหนดแผนการรักษาที่แม่นยำ เช่น สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือเป็นการรักษาแบบประคับประคอง หรือในขั้นตอนของการรักษาด้วยการฉายรังสีจะสามารถรักษาให้แม่นยำตรงเป้าหมายได้อย่างไร
การทดลองเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2010 จนกระทั่งเดือนมิถุนายน 2012 ได้ทำการสำรวจการรักษาโรคมะเร็งแผนกนารีเวชจาก 40 ตัวอย่างของศูนย์มะเร็งกษัตริย์ฮุสเซน (ประกอบด้วยการรักษามะเร็งมดลูก 23ตัวอย่าง การรักษามะเร็งรังไข่ 8 ตัวอย่าง รวมถึงการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก 9 ตัวอย่าง ) ผู้ป่วยเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มที่ 1 การประเมินรอบด้านจากการยอมรับผลวินิจฉัยแต่ละระยะในครั้งแรก (15 ตัวอย่าง)กลุ่มที่ 2 การตอบสนองหลังการประเมินการรักษาด้วยการใช้ PET-CT สแกน
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า 7.5% (3 ตัวอย่าง) ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้น 32.5% โรคของผู้ป่วยได้รับการบรรเทา ผู้ป่วยที่เหลือมีอาการที่ค่อนข้างทรงตัว จากผล PET-CT สแกน แพทย์ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาของผู้ป่วยรายหนึ่งในจำนวนทั้งหมด โดยเปลี่ยนจากการรักษาแบบให้หายขาดมาเป็นการรักษาแบบประคับประคอง และนำการรักษาแบบให้หายขาดมาใช้กับผู้ป่วยอีก 8 คนที่เหลือซึ่งมะเร็งยังไม่มีการลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง นอกจากนี้ 20% ของผู้ป่วย (ตัวอย่าง 8 คน) ที่ตรวจ PET-CT สแกนแล้วพบว่าสภาวะของต่อมน้ำเหลืองก่อนหน้าการถ่ายภาพกายวิภาคกับสภาพต่อมน้ำเหลืองในปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทำให้แพทย์หันมาปรับเปลี่ยนปริมาณของยาและตำแหน่งของการฉายรังสีอีกครั้ง เพื่อลดผลข้างเคียงที่ไม่จำเป็น
หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแพทย์หญิงไต้เหวินเยี่ยน ได้มาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
เทคโนโลยี PET-CT สแกน สามารถวินิจฉัยมะเร็งในระยะแรก แยกแยะระยะของมะเร็ง สามารถตรวจหาอาการเริ่มแรกก่อนได้รับหลักฐานแสดงผลภาพถ่ายกายวิภาค กระทั่งสามารถตรวจพบเนื้องอกที่มีขนาดเล็กกว่า 2 มิลลิเมตร ในขณะเดียวกัน PET-CT ยังสามารถแยกแยะว่ามีการกำเริบของเนื้องอกหรือไม่ ค้นหาตำแหน่งที่ก่อให้เกิดโรคและตำแหน่งของการแพร่กระจาย เพื่อการฉายรังสีได้ตรงเป้าหมายและแม่นยำ รวมถึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการการตรวจวัดประสิทธิภาพการรักษา
หลักการการทำงานของ PET-CT สแกนคือ หลังจากฉีดสารเพื่อแสดงให้เห็นภาพในร่างกายของผู้ป่วยแล้ว PET-CT สแกนสามารถที่จะสร้างภาพสะท้อนสภาพร่างกายของผู้ป่วย ภาพที่สร้างขึ้นสามารถอธิบายผลขั้นตอนทางเคมีชีวภาพต่อโรคได้เป็นอย่างดี
การประเมินและข้อมูลการจัดการรักษาที่ได้จาก PET-CT สแกนจะมีมากกว่าการรักษาด้วย PET หรือ CT อย่างเดียว ปัจจุบันมีการรักษาที่ล้ำหน้าเกินกว่าการใช้ PET และ CT เพียงอย่างเดียว ทั้งยังครอบคลุมการทำงานคุณภาพสูงทั้งหมดของ CT ที่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ รวมถึงครอบคลุมการทำงานของ PET อย่างสมบูรณ์อีกด้วย----สามารถสแกน CT ทั่วทั้งร่างกายในเวลา 20 นาที ให้ประสิทธิภาพมากกว่า 60% เมื่อเปรียบเทียบกับการทำ PET เพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังสามารถแสดงภาพการทำงานของเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์สมองและกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างรวดเร็ว และความแม่นยำมากกว่า CT
หัวหน้า ผู้เชี่ยวชาญไต้ ชี้ให้เห็นว่า หลังจากที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวนำเข้าเครื่อง PET-CTผู้ป่วยจำนวนมากที่มีการเปลี่ยนแปลงแผนการรักษาหลังจากได้รับการวินิจฉัยที่แม่นยำจากเครื่อง PET-CT และ PET-CT ยังสามารถประเมินประสิทธิการรักษาได้อย่างแม่นยำ ปรับปรุงวิธีการรักษาและตรวจคัดกรองยาที่ใช้รักษา หลีกเลี่ยงการรักษาที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยรวมแล้วสามารถประหยัดค่ารักษาได้เป็นจำนวนมาก และประหยัดเวลาอันมีค่าไว้ การวิจัย ASCO รวมไปถึงกรณีตัวอย่างในการรักษาสามารถพิสูจน์แล้วว่าเทคโนโลยีPET-CT สแกนมีความหมายต่อการรักษาอย่างมาก ช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการใช้ PET-CT