เวทีสนทนาในวันแลกเปลี่ยนการรักษาทางการแพทย์นานาชาติสมัยใหม่ปี 2013
ผู้ป่วยต่างชาติรักษาที่กว่างโจว ให้ความสนใจการรักษาทางกายและจิตใจแบบชาวจีน
เนื่องด้วยการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงทางด้านวัฒนธรรมและด้านภูมิศาสตร์ที่ดีขึ้นของเมืองกว่างโจว เป็นสาเหตุให้ชาวต่างชาติที่เลือกที่จะทำงานที่เมืองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการอยู่ระยะยาว แม้กระทั่งการอยู่อย่างถาวร และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีชาวต่างชาติไม่น้อยที่รู้จักเทคโนโลยีการการรักษาในจีนแล้วบินมารักษาที่กว่างโจวโดยเฉพาะ และในงานวันแลกเปลี่ยนการรักษาทางการแพทย์นานาชาติสมัยใหม่ปี 2013 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม มีชาวต่างชาติจากประเทศต่างๆ ทั้ง อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศและประเทศไทย เป็นต้น มาร่วมพูดคุยแชร์ประสบการณ์การรักษาที่กว่างโจว อธิบายถึงปัญหาที่พวกเขาเผชิญไม่ว่าจะเป็น ร่างกายที่ไม่พร้อม สถานที่ไม่คุ้นเคย ภาษาที่แตกต่าง ความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความรู้สึกโดดเดี่ยว ปัญหาต่างๆ เป็นต้น รวมถึงยังอธิบายว่าตอนที่พวกเขารักษาตัวอยู่ที่กว่างโจวภายใต้การดูแลเอาใจใส่ให้กำลังใจของหมอและนางพยาบาลนั้น ทำอย่างไรพวกเขาถึงเอาชนะโรคมะเร็งร้ายได้
เป็นที่เข้าใจแล้วว่าโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวได้ตั้งกลุ่มให้บริการทางด้านการรักษานานาชาติแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติแล้ว อีกทั้งยังเสนอการรักษาแบบ “ทางสีเขียว” ให้แก่ผู้ป่วยด้วย มีผู้เชี่ยวชาญเคยบอกมาว่า เทคโนโลยีการรักษาที่ล้ำสมัยจะสามารถช่วยผู้ป่วยในการควบคุมและกำจัดตัวโรคไปได้ และหากมีโอกาสจัดงานประเภทนี้อีก ให้โอกาสคุณหมอกับผู้ป่วย หรือผู้ป่วยกับผู้ป่วย รวมไปถึงกลุ่มสายธารน้ำใจกับผู้ป่วยได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการกำจัดความหวาดกลัวในใจของผู้ป่วย คงสภาพจิตใจที่ดีไว้ ยกระดับคุณภาพชีวิตและยืดอายุของผู้ป่วยออกไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างล้นเหลือต่อผู้ป่วยที่มารักษาและต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง
ผลสำรวจ : ชาวต่างชาติที่มารักษาที่กว่างโจวมีจำนวนเพิ่มขึ้น 20% ของทุกปี
จากการสำรวจของทางโรงพยาบาลเรา ขณะนี้ในทุกๆ วันทางโรงพยาบาลจะมีผู้ป่วยชาวต่างชาติมาสอบถามและรักษาอยู่เรื่อยๆ พวกเขาส่วนมากมาจากการแนะนำของเพื่อน และส่วนหนึ่งก็ผ่านทางสำนักงานตามประเทศต่างๆ เข้ามาที่นี่ หรือบางคนก็มาจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการรักษาของจีน ตามคำบอกเล่าของผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวคุณหวังหวยจงบอกว่า ในปัจจุบันทุกปีจะมีผู้ป่วยเข้ามาโดยประมาณแสนกว่าคน มีผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเกือบ 7000 คน ในจำนวน 7000 คนนั้นเป็นผู้ป่วยที่มาจากแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 90% ยกตัวอย่างแผนกรักษามะเร็ง ผู้ป่วยส่วนมากล้วนมาจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ประเทศจีน อย่างเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บังกลาเทศ ไทย มาเลเซียและประเทศแถบยุโรป เป็นต้น
ผู้อำนวยการหวังหวยจงยังบอกอีกว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยที่มารักษาที่โรงพยาบาลเห็นชัดขึ้นหลังจากที่มีเอเชียนเกมส์ ปี 2010 ที่เมืองกว่างโจว การรับผู้ป่วยชาวต่างชาติมารักษาที่นี่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ของทุกปี ดังนั้นเพื่อสนองความต้องการของตลาด อีกทั้งแสดงถึงความห่วงใยของโรงพยาบาลที่มีต่อผู้ป่วย เมื่อปี 2006 ทางโรงพยาบาลจึงริเริ่มจัดตั้งฝ่ายติดต่อระหว่างประเทศและฝ่ายล่าม จัดตั้งกลุ่มให้บริการทางด้านการรักษานานาชาติเพื่อความสะดวกแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ นอกเหนือจากนี้ยังมีการบริการพิเศษอีกมากมาย เช่น การบรรยายที่จัดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จัดตั้งศูนย์กลางธุรกิจ และการเดินเล่นยามบ่าย เป็นต้น
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เนื่องในโอกาสครบรอบ 8 ปีโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว ทางโรงพยาบาลได้จัดนิทรรศการ “วันแลกเปลี่ยนการรักษาทางการแพทย์นานาชาติสมัยใหม่ปี 2013” ที่เชิญ ผู้ป่วยที่เคยรับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่าง “ผู้กล้าต่อต้านมะเร็ง” “ทูตสุขภาพสมัยใหม่” และ กลุ่มอาสาสมัครในเมืองกว่างโจวมาร่วมพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ซึ่งทางโรงพยาบาลหวังว่าโอกาสที่ใช้ในการจัดงานครั้งนี้จะสามารถทำให้ผู้ป่วยเชื่อมั่นในการรักษามากขึ้นและรับรู้ถึงบรรยากาศด้านวัฒนธรรมที่ดีของกว่างโจวได้
ตัวอย่าง : ได้รับการบริการรักษาทั้งทางกายและใจแบบชาวจีนที่เมืองกว่างโจว
ในวันแลกเปลี่ยนการรักษาทางการแพทย์นานาชาติสมัยใหม่ ผู้ป่วยมากมายจากเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บังกลาเทศ ไทย มาเลเซีย เป็นต้น และทูตสุขภาพสมัยใหม่ร่วมกันพูดคุยและอธิบายถึงประสบการณ์การรักษาที่กว่างโจวของพวกเขา โดยมีการรวมตัวกันของกลุ่มศิลป์อาสาสมัครเมืองกว่างโจวและกลุ่มร้องเพลงไป๋หยุนซันแสดงความห่วงใยและปลอบใจผู้ป่วยชาวต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีการแสดงร้องรำที่กำกับเองและเล่นเองเพื่อผู้ป่วยโดยเฉพาะ
คุณลุงหลัวซือหมิงวัย 83 ปีจากประเทศไทย
คุณลุงหลัวจากประเทศไทยบอกว่า “เทคโนโลยีทางการรักษาของจีนที่ก้าวหน้ากว่าเวียดนามอีกทั้งความเอาใจใส่ของคุณหมอที่มีต่อผู้ป่วยเป็นสาเหตุให้คนเวียดนามมีแนวโน้มที่จะมารักษาที่เมืองจีนมากขึ้น นอกจากนี้แล้วประเทศจีนยังมีเทคโนโลยีแพทย์จีนที่มีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา เช่นการรักษาสมุนไพร การฝังเข็ม พวกเราจึงยินดีที่จะลองรักษาดู” ตามคำบอกเล่าของนักข่าว ผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวส่วนมากมักจะมาจากการแนะนำของเพื่อนสนิทหรือจากสำนักงานของโรงพยาบาลที่อยู่ตามที่ต่างๆ ในแต่ละประเทศ รวมถึงมาจากสื่อมวลชนที่แนะนำเรื่องเทคโนโลยีการรักษาของจีนด้วย
คุณหวังโยวหัว ชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีน
เมื่อสองปีก่อน คุณหวังโยวหัวชาวอินโดนีเซียเชื้อสายจีนตรวจเจอโรคมะเร็งเต้านมด้านขวาที่อยู่ในระยะแพร่กระจายที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวแล้วจึงตัดสินใจทำการรักษาที่นี่ หลังจากที่อาการดีขึ้นก็ออกจากโรงพยาบาล ตอนนี้อาการอยู่ในเกณฑ์ดี ในวันที่จัดกิจกรรมคุณหวังดูมีชีวิตชีวากระชุ่มกระชวย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอพูดว่า “เมื่อตอนเดือนมิถุนายนฉันเพิ่งกลับมาจากซินเจียงและมองโกเลียในกับสามี ตอนนี้อาการดีขึ้นเยอะ อยู่ที่อินโดนีเซียมีแต่คนบอกว่าดูไม่ออกเลยว่าเป็นโรคมะเร็ง”
รองผู้อำนวยการเฉินปิน ผู้รับผิดชอบด้านการแพทย์ในโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจวบอกว่า “เมื่อการแพทย์มีการพัฒนา โรคต่างๆ ก็มีวิธีรักษาที่หลากหลายมากขึ้นซึ่งสามารถควบคุมแม้กระทั่งกำจัดโรคที่เคยคิดว่าเป็นโรคที่ร้ายแรง อีกทั้งการแชร์ประสบการณ์จริงของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาทันท่วงที ทำให้กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงและสามารถมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ยังช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้ผู้ป่วยรายอื่น ค่อยๆ กำจัดความกลัวของผู้ป่วยออกไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มารับการรักษาและพักฟื้นเป็นอย่างมาก
เป้าหมาย : สิ่งแวดล้อมที่สะดวกสบายทางด้านการแพทย์เพื่อผู้ป่วยชาวต่างชาติ
จากที่ทราบมา ผู้ป่วยชาวต่างชาติที่มารักษาที่กว่างโจวมักจะเผชิญกับสถานกาณ์ที่น่าอึดอัด พวกเขาไม่คุ้นเคยกับโรงพยาบาลของรัฐที่อยู่ในจีน ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้นมา เช่น ได้รับบาดเจ็บ วินาทีแรกคงไม่โทรไปที่เบอร์ 120 แต่กลับเป็นบริษัทประกันติดต่อกับทางโรงพยาบาล ซึ่งบริษัทประกันเหล่านั้นมักจะแนะนำผู้ป่วยให้ไปที่โรงพยาบาลสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งถ้าหากไม่ได้ทำประกันไว้ค่าใช้จ่ายก็จะสูงมาก อีกทั้งถ้าผู้ป่วยใช้ภาษาที่อยู่ในกลุ่มคนใช้น้อยก็ไม่แน่ว่าโรงพยาบาลแห่งนั้นจะมีล่ามคอยให้บริการ หรือหากเป็นโรคทั่วๆ ไป แล้วไปใช้บริการของโรงพยาบาลทั่วไปก็อาจจะเกิดความลำบากในการสื่อสารได้
ในวันพบปะพูดคุยนั้น มีผู้ป่วยชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเล่าถึงประสบการณ์ความยากลำบากของตนเองหรือจากเพื่อนที่รู้จักจากการรักษาภายในประเทศ ซึ่งหวังว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจได้และหันมาอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ให้กับพวกเขา จากเหตุการณ์ครั้งนี้ รองผู้อำนวยการเฉินปินเห็นว่า จะรับมือกับผู้ป่วยชาวต่างชาตินั้น เรื่องมาตรฐานด้านการแพทย์ มาตรฐานด้านอุปกรณ์ มาตรฐานด้านการบริการ ล้วนสูงกว่าปกติ และต้องพร้อมที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายให้กับผู้ป่วยชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของทางโรงพยาบาล
แหล่งข้อมูลจาก :https://gd.sina.com.cn/news/b/2013-08-08/195131559.html